Project Management
ลักษณะงานโครงการ
· โดยมากเป็นงานที่มีจุดเริ่มต้นและจุดสิ้นสุด
· เป็นงานที่ทำครั้งเดียวแล้วเสร็จ
· ไม่คุ้มค่าที่จะจัดตั้งเป็นแผนก
· เป็นงานที่ไม่เหมือนงานอื่น ๆ มีข้อจำกัดด้านเวลา
สถานที่และงบประมาณ
แผนโครงการที่ดีนั้นประกอบด้วย 4 ส่วนประกอบสำคัญ ได้แก่
1. คำอธิบายที่เกี่ยวกับโครงการ (Statement
of Work/SOW/Scope Statement)
2. รายละเอียดและข้อกำหนดเกี่ยวกับโครงการ (Project
Specification)
3. กำหนดการของเป้าหมาย (Milestone
Schedule)
4. แผนงานอย่างละเอียด (Work
Breakdown Structure)
คำอธิบายที่เกี่ยวกับโครงการ (Statement of Work)
คือคำอธิบายแบบละเอียดของโครงการและงานที่ต้องทำในโครงการ
คำอธิบายที่เกี่ยวกับประกอบด้วย
· วัตถุประสงค์ของโครงการ (Project
Objective)
· คำอธิบายโดยย่อของงานสำคัญและรายการของผลผลิต (List
of Deliverable)
· ข้อจำกัดเกี่ยวกับงบประมาณ (ถ้ามี) (Budget
Constraint)
· และหมายกำหนดการโดยรวม (Overall
Schedule)
ระหว่างการจัดทำคำอธิบายที่เกี่ยวกับโครงการ
ผู้จัดการโครงการควรทำให้มั่นใจในความครบถ้วนสมบูรณ์ของเนื้อหาโดยการจัดการทบทวนหลายๆครั้งกับผู้เชี่ยวชาญ (Functional
specialists) ที่เกี่ยวข้องเพื่อตรวจสอบว่าข้อมูลทางเทคนิคและบริหารนั้นเพียงพอที่จะบรรลุวัตถุประสงค์ของโครงการ
หลังจากได้รับความคิดเห็นจากรอบด้านแล้ว
ผู้จัดการโครงการควรเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมตรวจสอบครั้งสุดท้ายกับผู้จัดการระดับสูง (senior
management) ก่อนจะนำคำอธิบายที่เกี่ยวกับโครงการไปใช้ต่อในการวางแผนโครงการ
รายละเอียดและข้อกำหนดเกี่ยวกับโครงการ
(Project Specification)
คือการกำหนดมาตรฐานและรายละเอียดของทุกอย่างที่จะใช้ใน Project และทุกอย่างที่เป็นสิ่งที่ได้ออกมาจาก Project หรือที่เราเรียกว่าWork Products หรือ Deliverable
ทำไม Project Specification ถึงสำคัญ? ก็เพราะ
· เป็นหนึ่งใน Requirement ของ Project ที่เรารับผิดชอบซึ่งเป็นสิ่งที่ลูกค้าคาดหวังไว้ว่าจะได้รับเมื่อ Project จบ พูดคุยตกลงเรื่องนี้กันได้แต่เนิ่นๆก็จะลดโอกาสที่จะเกิดสิ่งไม่คาดคิด
(surprise) กับทั้งตัวลูกค้าและตัวเราเอง
· ถูกใช้สำหรับการประเมินค่าใช้จ่ายและแรงงานที่ต้องใช้ครับ
ซึ่งการแก้ไขมาตรฐานเพียงเล็กน้อยอาจจะเป็นผลกระทบใหญ่ต่อค่าใช้จ่าย เช่น
ถ้าลูกค้าขอให้ระบบทำงานเร็วขึ้นซัก 1-2% เราอาจจะต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมเป็นเงินนับล้านบาท
ดังนั้นเราจึงต้องตกลงเรื่องนี้กับลูกค้าให้เรียบร้อยก่อนตั้งแต่ตอนวางแผนโครงการเพื่อที่จะป้องกันการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นภายหลัง
กำหนดการของเป้าหมาย (Milestone Schedule)
ประกอบด้วย
· วันเริ่มต้นโครงการ (Project
Start Date)
· วันสิ้นสุดโครงการ (Project
End Date)
· กำหนดการของเป้าหมายสำคัญ (Major
Milestones)
· ผลผลิตหรือรายงาน (Deliverable
or Reports)
วันเริ่มต้นและวันสิ้นสุดโครงการ(ถ้าถูกกำหนดมาแล้ว)จำเป็นต้องถูกรวมเข้าไปในการวางแผนโครงการ
กำหนดการของเป้าหมายสำคัญก็ได้แก่ การประชุมเพื่อตรวจสอบวัตถุประสงค์ของโครงการ
วันที่ระบบตัวอย่างพร้อมส่งมอบ วันสั่งซื้อวัตถุดิบ วันเริ่มทดสอบระบบจริง
และอื่นๆก็ควรจะถูกระบุลงในแผนโครงการด้วยเช่นกัน
แผนงานอย่างละเอียด (Work Breakdown Structure)
คือตัวแทนซึ่งถูกจัดเรียงเป็นลำดับขั้นของงานที่ต้องทำในโครงการเพื่อบรรลุวัตถุประสงค์
ในการวางแผนโครงการผู้จัดการโครงการต้องวางโครงสร้างของงานเป็นส่วนเล็กๆเพื่อ
· ง่ายต่อการบริหารจัดการเพราะอำนาจและผู้รับผิดชอบจะถูกกำหนดให้กับงานชิ้นเล็ก
· ลดความเกี่ยวข้องและขึ้นต่อกันระหว่างงานใหญ่ๆลง
· ง่ายต่อการวัดผลและติดตามความก้าวหน้าของงาน
การออกแบบและเขียนแผนงานอย่างละเอียดต้องทำด้วยความรอบคอบ
แผนงานอย่างละเอียดที่ดีสามารถใช้ในการจัดเตรียมสิ่งต่างๆได้ดังนี้
· ตารางความรับผิดชอบ (the
responsibility matrix)
· โครงข่ายของหมายกำหนดการ (network
scheduling)
· ค่าใช้จ่าย (costing)
· การวิเคราะห์ความเสี่ยง (risk
analysis)
· โครงสร้างขององค์กรหรือบุคคลากร (organizational
structures)
· แผนการควบคุม (control)
คำจำกัดความของงานในลำดับล่างสุดควรประกอบด้วย
· วัตถุประสงค์ (objective): สิ่งที่ต้องทำให้สำเร็จในงานนี้ (expected
outcome)
· ผลผลิตที่ต้องส่งมอบ (deliverable): เป็นสิ่งที่จับต้องหรือใช้งานได้ ประกอบด้วยฮาร์ดแวร์ ซอฟท์แวร์ รายงาน
และอื่นๆ
· กำหนดเวลา (schedule): งานทั้งหมดต้องมีวันเริ่มต้น วันสิ้นสุด
และวัน(เวลา)สำหรับรายงานความคืบหน้าของงาน (update
date)
· งบประมาณ (budget): งบประมาณที่ต้องใช้ในการทำงานแต่ละงาน
· มาตรการวัดผล (performance
measures): กำหนดมาตรการวัดผลความคืบหน้าของงานโดยการเปรียบเทียบผลงานจริง(actual) และความคาดหวัง (planned) ระหว่างดำเนินโครงการ
· หน้าที่รับผิดชอบ (responsibility): ระบุผู้รับผิดชอบให้กับแต่ละงานในโครงการ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น